ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji)
ความสำคัญที่นักท่องเที่ยวควรรู้
โปรดตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนเดินทาง เนื่องจากสถานที่หรือช่วงเวลาจัดกิจกรรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
ชื่อสถานที่: ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji)
พิกัด: 35.3606 138.7278
ลิงก์ Google Maps: กรุณาคัดลอกพิกัดด้านบน (ตัวเลขล้วนๆ คั่นด้วยเว้นวรรค) ไปวางในช่องค้นหาของ Google Maps นี้:https://www.google.com/maps
ภาพรวม
ภูเขาไฟฟูจิเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นและงดงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO ไม่เพียงเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ แม้จะสงบมานานหลายศตวรรษ ภูเขาไฟฟูจิครอบคลุมพื้นที่ระหว่างจังหวัดชิซูโอกะและจังหวัดยามานาชิ มอบทัศนียภาพอันน่าทึ่งจากหลากหลายมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบทั้งห้าที่ล้อมรอบ หรือจากเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ความงามสง่าของฟูจิได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินและนักเดินทางมานับไม่ถ้วน
จุดเด่นที่น่าสนใจ Highlights ทำให้ น่าไป และ ไม่ควรพลาด
- ทัศนียภาพอันงดงาม: ฟูจิสามารถมองเห็นได้จากหลายจุด โดยเฉพาะจากบริเวณทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko) และฮาโกเนะ (Hakone) ซึ่งมอบมุมมองที่สมบูรณ์แบบพร้อมฉากหน้าอันสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นดอกซากุระ ทุ่งดอกไม้ หรือใบไม้เปลี่ยนสี
เส้นทางปีนเขา: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย การปีนภูเขาไฟฟูจิเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและน่าจดจำ โดยมีเส้นทางปีนเขาหลายสายให้เลือก ซึ่งแต่ละเส้นทางก็มีจุดเด่นและความยากง่ายต่างกันไป
กิจกรรมรอบทะเลสาบ: บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิมีทะเลสาบ 5 แห่ง (Fuji Five Lakes) ที่มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น ล่องเรือ ปั่นจักรยาน หรือแช่ออนเซ็น พร้อมชมวิวฟูจิอันตระการตา
มรดกโลก: ฟูจิเป็นแหล่งรวมความเชื่อทางศาสนาและแรงบันดาลใจทางศิลปะมาอย่างยาวนาน การมาเยือนจึงไม่ใช่แค่การชมธรรมชาติ แต่เป็นการสัมผัสถึงจิตวิญญาณและวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
ประวัติความเป็นมา
ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาไฟที่ก่อตัวขึ้นจากการปะทุหลายครั้งตลอดหลายแสนปี การปะทุครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10,000 ปีที่แล้ว และการปะทุครั้งสุดท้ายคือในปี ค.ศ. 1707 ซึ่งทำให้เกิดปล่องภูเขาไฟโฮเอะ (Hoei Crater) ที่ด้านข้างของภูเขา ฟูจิมีความสำคัญทางวัฒนธรรมและศาสนามายาวนาน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการฝึกฝนทางจิตวิญญาณและเป็นแรงบันดาลใจให้กับบทกวีและภาพวาดนับไม่ถ้วน การได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 2013 ยิ่งตอกย้ำถึงคุณค่าอันเป็นสากลของภูเขาแห่งนี้
การเดินทางสู่ภูเขาไฟฟูจิและบริเวณโดยรอบ: สามารถเดินทางด้วยรถไฟ JR Chuo Line หรือรถบัส Highway Bus ไปยังสถานี Kawaguchiko หรือ Gotemba ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นยอดนิยมสำหรับการเดินทางไปยังฟูจิและทะเลสาบโดยรอบ รถไฟ JR Chuo Line จาก Shinjuku (โตเกียว) ไปยัง Otsuki แล้วต่อรถไฟ Fujikyu Railway ไปยัง Kawaguchiko หรือใช้ JR Tokaido Line ไปยัง Odawara แล้วต่อรถบัสไปยัง Hakone เพื่อชมวิวฟูจิจากอีกมุม เมื่อไปถึงพื้นที่ฟูจิแล้ว สามารถใช้บริการรถบัสท้องถิ่น, รถบัสท่องเที่ยว, หรือเช่ารถยนต์เพื่อสำรวจทะเลสาบและจุดชมวิวต่างๆ
Tips ที่ควรรู้
- เวลาและฤดูกาลที่ดีที่สุด: ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม-พฤศจิกายน) เป็นช่วงที่อากาศดีและทัศนียภาพสวยงามที่สุดสำหรับการชมฟูจิ ฤดูร้อน (กรกฎาคม-สิงหาคม) เป็นช่วงที่เปิดให้ปีนเขา
การเตรียมตัวปีนเขา: หากต้องการปีนฟูจิ ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม ศึกษาเส้นทาง และเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น เสื้อกันหนาว รองเท้าปีนเขา และน้ำดื่มให้เพียงพอ
จุดชมวิว: นอกจากทะเลสาบคาวากูจิโกะแล้ว ยังมีจุดชมวิวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) ในสวนอาราคุระยามะเซ็นเก็น (Arakurayama Sengen Park) หรือจากกระเช้าคาจิคาจิ (Mt. Kachi Kachi Ropeway)
สภาพอากาศ: สภาพอากาศบนภูเขาเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศก่อนเดินทาง และเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับทุกสภาพอากาศ
หากท่านยังไม่มีประกันภัยการเดินทางไปต่างประเทศ สามารถคลิกอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ครับ
อย่าลืมแวะเยี่ยมชม ช่อง OHOoutdoor
หมายเหตุ
ผมก็เป็นนักท่องเที่่ยวเช่นเดียวกับท่านครับ เดินทางไปเที่ยวคนเดียว หรือ ไปกับครอบครัวไปกันเอง แบบ Solo Tour ไม่ใด้เป็นบริษัทนำเที่ยวแต่อย่างใดครับ
>> ข้อมูลทั้งหมด OHOoutdoor ใช้ AI จัดทำขึ้นมา จากประสบการณ์ว่าควรมีข้อมูลใดบ้างก่อนไปท่องเที่ยวก่อนไปท่องเที่ยยว ท่านควรตรวจสอบ รายละเอียดที่สำคัญอีกครั้ง โดยเฉพาะ หากมีวันเวลาในการจัดงาน และ พยากาณ์อากาศ การเดินทางจริงนะครับ
>> ขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านเป็นอย่างสูงที่แวะมาเยี่ยมชมข้อมูลที่ หน้าเว็บไซต์ Blog OHOoutdoor